รีวิวที่พักหัวหิน Yana Villas Hua Hin วิลล่าหัวหินติดทะเล ทำเลดี เงียบสงบ ติดเขาตะเกียบ
August 29, 2020
เปิดแคมเปญ ททท.ชวนคนไทย “เที่ยวเมืองไทยให้หายคิดถึง”
November 4, 2020

รีวิวที่พักเกาะช้าง The Splash เกาะช้าง ที่พักทำเลดี ติดทะเล เหมาะกับครอบครัว

เบื่อแล้วทะเลใกล้กรุงเทพฯ อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง แนะนำให้ขับรถไปเที่ยวเกาะช้างกันได้เลย เพราะเกาะช้างนั้น คุณจะได้เที่ยวแนวติดเกาะ แบบที่เพลิดเพลินอยู่แต่บนเกาะ มีครบทั้งที่พักเกาะช้าง ร้านอาหาร ตู้เอทีเอ็ม ไปจนถึงบาร์ต่างๆ ก็มีครบ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทั้งนักท่องเที่ยวคนไทย และชาวต่างชาติถึงชอบไปเที่ยวเกาะช้างกันเพียงนี้ บทความนี้เราเลยเอารีวิวที่พักเกาะช้างเปิดใหม่มาฝาก ที่เรียกว่าเปิดใหม่ คือบอกเลยว่าเพิ่งเปิดได้สดๆ ร้อนๆ ไม่ถึงเดือนเท่าไหร่เราก็ไปเที่ยวกันเลย นั่นก็คือรีวิวที่พักเดอะสแปลช เกาะช้าง The Splash Koh Chang อยากรู้เป็นยังไงตามมาดูกันเลย

วิธีเดินทางมาเกาะช้าง 

  • ก่อนอื่นเลยต้องออกจากบ้านแต่เช้า เพราะเกาะช้างอยู่ไกลมาก อันดับแรกต้องขับรถมาที่จังหวัดตราดก่อน เพราะท่าเรือเฟอร์รี่ตั้งอยู่ในจังหวัดตราด เส้นทางหลวงก็มีหลายเส้นให้เลือก แต่ใครสะดวกก็วิ่งมอเตอร์เวย์ยาวๆ ไปลงชลบุรีแล้วก็ขับต่อไปได้ 
  • ท่าเรือที่จะข้ามไปยังเกาะช้างนั้นจะมีอยู่ 2 ท่าด้วยกัน ตั้งอยู่ในอำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราดได้แก่ 
  1.  ท่าเรืออ่าวธรรมชาติ จะเป็นท่าเรือที่ได้รับความนิยมมากที่สุด รอบแรกเดินเรือคือประมาณ 6 โมงเช้า แนะนำว่าให้มาเช้าหน่อย เพราะต่อคิวนาน เรือเฟอร์รี่แม้จะลำใหญ่จริง แต่พอเจอรถบรรทุกของเข้าไป ก็ทำให้รถยนต์ขนลงเรือได้ไม่กี่คัน 
  2. ท่าเรือเซ็นเตอร์พอยท์ เป็นอีกหนึ่งท่าเรือหนึ่ง ข้อดีของท่าเรือเซ็นเตอร์พอยท์ก็คือคนจะไม่เยอะ ไม่ค่อยหนาแน่นเท่าไหร่ แต่ท่าเรือนี้เมื่อข้ามไปแล้ว จะไปยังฝั่งซ้ายของเกาะช้าง เป็นฝั่งที่มีแต่ธรรมชาติ ที่พักเบาบาง และไม่เจริญเท่ากับฝั่งขวาอีกฝั่งหนึ่ง ทั้งนี้ทั้งนั้นการเดินทางขับรถในเกาะช้างจะไม่สามารถขับรถอ้อมเกาะได้ จะต้องอ้อมถ้าหากว่าอยากเดินทางไปอีกฝั่งหนึ่ง 
ข้ามเรือเฟอร์รี่มาถึงฝั่งเกาะช้างเรียบร้อยแล้ว จะเสิร์ชชื่อโรงแรมในกูเกิ้ลแมพก็ได้ หรือว่าจะขับรถเลาะมาตามฝั่งขวาก็ได้ เมื่อขับรถมาเรื่อยๆ แล้วนั้น ก็จะเจอกับหาดทรายขาว ไก่แบ้ และคลองพร้าว เมื่อถึงประมาณวัดคลองพร้าวที่ตั้งอยู่ขวามือก็ให้ชะลอรถ เพราะนั้นแปลว่าใกล้ถึงโรงแรมแล้ว ที่พักเกาะช้าง The Splash Koh Chang นั้นตั้งอยู่ริมถนนเลย มองหาได้ไม่ยาก เมื่อเจอที่พักเดอะสแปลชจะมองเห็นสระว่ายน้ำ และสไลดเดอร์ใหญ่ยักษ์ แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวแนวครอบครัว หรือว่าเด็กๆ จะต้องถูกใจอย่างแน่นอน
ข้ามเรือเฟอร์รี่มาถึงฝั่งเกาะช้างเรียบร้อยแล้ว จะเสิร์ชชื่อโรงแรมในกูเกิ้ลแมพก็ได้ หรือว่าจะขับรถเลาะมาตามฝั่งขวาก็ได้ เมื่อขับรถมาเรื่อยๆ แล้วนั้น ก็จะเจอกับหาดทรายขาว ไก่แบ้ และคลองพร้าว เมื่อถึงประมาณวัดคลองพร้าวที่ตั้งอยู่ขวามือก็ให้ชะลอรถ เพราะนั้นแปลว่าใกล้ถึงโรงแรมแล้ว ที่พักเกาะช้าง The Splash Koh Chang นั้นตั้งอยู่ริมถนนเลย มองหาได้ไม่ยาก เมื่อเจอที่พักเดอะสแปลชจะมองเห็นสระว่ายน้ำ และสไลดเดอร์ใหญ่ยักษ์ แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวแนวครอบครัว หรือว่าเด็กๆ จะต้องถูกใจอย่างแน่นอน

เดินเข้ามาด้านในก็จะเห็นที่พักเดอะ สแปลชเกาะช้าง (The Splash Koh Chang) มีลักษณะทั้งบ้านเป็นหลัง และที่พักอยู่ในตึก เนื่องด้วยความหลากหลายของที่พักนั่นเอง ที่สามารถเลือกได้ว่าจะพักห้องแบบไหนที่ตรงใจคุณมากที่สุด โดยห้องพักจะถูกแบ่งออกเป็น 4 แบบด้วยกันคือ 

  • Superior Room เป็นห้องพักเดอะสแปชแบบเริ่มต้นที่จะอยู่ตามตึกต่างๆ มีขนาดห้องเล็กที่สุด ราคาเริ่มต้นก็จะเบาๆ ตอนเราไปโปรโมชั่นจะอยู่ที่ประมาณเริ่มต้น 1,400 บาทเท่านั้น 
  • Deluxe Room ถัดมาเป็นแบบดีลักซ์ จะมีความส่วนตัวขึ้นมาหน่อย จะเป็นห้องพักแบบบ้านเป็นหลัง แต่แบ่งสองชั้น ถ้ามาเป็นครอบครัวจองสองห้อง ก็เหมือนได้บ้านไปเลยทั้งหลัง ส่วนตัวมากสุด 
  • Cottage Room แต่ใครที่มากับคู่รัก ต้องการความเป็นส่วนตัวแบบสูงสุด อยากได้บ้านที่มีลักษณะเหมือนเป็นบ้านเดี่ยวแยกออกมา ก็จะต้องเลือกห้องแบบนี้เลย ตรงโซฟานำมาปรับให้เป็นเตียงเสริมได้ด้วยนะ 
  • Family Suite ห้องแนวนี้ก็คือตอบโจทย์กับกลุ่มนักท่องเที่ยวแนวครอบครัวมากที่สุด เพราะว่าสามารถนอนได้ทั้งครอบครัวเลย แนะนำว่าหากใครมาเที่ยวเกาะช้าง แล้วอยากได้ห้องพักที่นอนรวมกันได้ เราว่าค่อนข้างตอบโจทย์เลยแหละ 
สำหรับทริปเกาะช้างนี้เราเลือกพักที่พักเดอะสแปลชแบบ Cottage เนื่องจากว่าราคาไม่แรง เพิ่มเตียงเสริมได้ เนื่องจากรอบนี้เราขอให้ทางโรงแรมจัดเตียงเสริมมาให้ แล้วที่สำคัญคือมีความเป็นส่วนตัว เลือกหลังที่อยู่ใกล้ทางเข้าจะได้ไม่ต้องเดินไกล ถือว่าถูกใจเป็นอย่างมาก เพราะราคาก็ไม่แพงมาก
นอกเหนือจากนั้นหากใครที่เดินทางมาเที่ยวเกาะช้างกันเป็นครอบครัว ที่ทางโรงแรมเดอะสแปลชก็มีห้องพักแบบบ้านเป็นหลัง ที่สามารถพักด้วยกันได้ทั้งครอบครัว มีหลายห้องให้เลือก แถมบ้านหลังนี้ยังมีชั้นสอง ตอนเดินขึ้นไปยังสามารถมองเห็นวิวทะเลได้จากบ้านหลังนี้ด้วย แต่ด้วยความที่รอบนี้เรามากันแค่สามคน ก็เลยพักห้องเล็กไป เล็งไว้รอบหน้าถ้ามาเป็นครอบครัวใหญ่ก็ค่อยจอง
พอเดินเข้ามาในห้องพัก ก็ต้องรู้สึกว้าวเพราะด้านในตกแต่งสวย เอาจริงตอนแรกเราก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากขนาดนั้น แต่ต้องบอกเลยว่าประทับใจ เพราะเตียงก็ใหญ่ นอนกันสองคนแบบไม่เบียดเลย แถมตรงปลายเตียงยังเป็นที่ตั้งของโซฟาเบดขนาดใหญ่ ที่ถ้าหากใครขอเตียงเสริม พนักงานก็จะมาเตรียมโซฟาให้กลายมาเป็นเตียง มาพร้อมกับหมอนและผ้าขนหนู ตามในรูปเลย
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทางโรงแรมได้จัดเตรียมมาให้ มีทั้งมินิบาร์ครบ (แต่จะต้องจ่ายเงินยกเว้นน้ำเปล่า) กาแฟ ชา ขนม ที่ถูกใจก็คือมีทั้งชุดคลุมอาบน้ำ ร่ม รองเท้าแตะให้พร้อม ในราคาห้องเริ่มต้นที่หลักพันต้น บอกเลยว่าถูกใจมาก ไม่ต้องเดินตัวเปียกไปว่ายน้ำอีกแล้ว เราคิดว่าที่พักเกาะช้าง เดอะสแปลชนี้คุ้มค่าไม่เบา
มาดูในส่วนของห้องน้ำกันบ้าง สำหรับห้องน้ำจะออกแนวลอฟท์ หรือว่าปูนเปลือยเบาๆ ห้องที่เราได้จะไม่มีการแยกโซนเปียก หรือว่าแห้ง แต่ก็มีการจัดฝักบัวให้เป็นสัดส่วน ที่ถูกใจอีกหนึ่งอย่างก็คือฝักบัวแบบ Rain Shower มาพร้อมกับครีมอาบน้ำ และยาสระผม ถึงแม้ว่าห้องน้ำจะไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก แต่ก็ทำออกมาได้ดี
หลังจากพักผ่อนหย่อนใจในห้องพักเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เดินออกมาบริเวณริมทะเล ซึ่งเราถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่พักเกาะช้างเดอะ สแปลชนี้ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะว่าเป็นทั้งบาร์ และห้องอาหาร ตอนเย็นใครคิดอะไรไม่ออก ก็สามารถแจ้งพนักงานให้เตรียมโต๊ะให้คุณได้ดินเนอร์ริมทะเลชมวิวพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติกได้ หรือใครอยากจะดินเนอร์ใต้แสงเทียนเคล้าเสียงคลื่นก็ได้อีกเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังมีบาร์ ให้คุณได้สั่งเครื่องดื่มไม่ว่าจะค็อกเทล หรือม็อกเทลมาจิบไปพลางๆ
ดินเนอร์เย็นวันนี้ของเราค่อนข้างจะพิเศษ เพราะว่าวันที่เราไปนั้นเป็นคืนวันศุกร์ ที่จะมีบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างแบบ Surf & Turf ให้คุณได้เลือกว่าจะกินกุ้ง หอยแมลงภู่ หอยเชลล์ ปลา หรือว่าเนื้อหมู ไก่ เนื้อวัวแบบบาร์บีคิวย่างก็ได้ ซึ่งราคาจะรวมทุกอย่างแล้วประมาณ 890++ มีให้บริการทุกวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 17.00 - 23.00 น. แนะนำเลยสำหรับใครที่ไม่อยากขับรถออกไปข้างนอก
เมนูดินเนอร์ถูกจัดเซ็ตมาให้อย่างสวยงาม แนะนำว่าหากใครที่ต้องการบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างราคาดี ก็อยู่ที่โรงแรมเถอะ ไม่ต้องออกไปหาร้านอาหารด้านนอกหรอก เพราะว่าคุ้มค่า สบาย แถมยังได้ดินเนอร์ริมทะเลแบบนี้ ถือว่าฟินทีเดียว สำหรับวันอื่นที่ไม่ใช่วันศุกร์นั้น อาจจะมีธีม หรือว่าเมนูอาหารให้สั่งแบบอื่น โดยรวมเห็นเป็นเมนู A La Cart ราคาก็โอเค ถือว่าซื้อความสะดวก อาหารอร่อย วิวยอดเยี่ยม แนะนำเลย
เอาภาพบรรยากาศสวยๆ ที่บริเวณห้องอาหารริมทะเล ก่อนพระอาทิตย์ตกดินมาให้ได้ชมกัน บอกเลยว่าสวยงามเป็นอย่างมาก แนะนำใครจองดินเนอร์ที่ริมทะเลไว้ มาถึงก่อนพระอาทิตย์จะตก แล้วคุณจะได้ดื่มด่ำช่วงเวลาที่แสนพิเศษนี้ไปด้วยกัน
ก่อนออกเดินทางเราก็ได้มากินอาหารเช้ากันที่ห้องอาหารของโรงแรม จะอยู่ข้างๆ กับล็อบบี้ จะต้องเดินขึ้นไปด้านบน ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ถ้าหากว่าแขกเยอะทางโรงแรมจะเสิร์ฟอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ แต่ถ้าหากว่าช่วงไหนแขกไม่เยอะ อาหารจะถูกเสิร์ฟมาแบบ A La Cart หรือช่วงกลางวัน ถ้าหิวๆ ก็สามารถมานั่งกินข้าวที่ห้องอาหารนี้ได้อีกเช่นเดียวกัน ในส่วนของอาหารเช้าก็มีให้เลือกหลากหลายมาก ขนมปัง ไข่ดาว หรือว่าคอนเฟลก กินให้พออิ่มท้องก็ถึงเวลาขับรถกลับกรุงเทพฯ ไปต่อคิวขึ้นเรือ แนะนำเลยว่าหากใครที่ไม่อยากไปต่อคิวรอเรือนาน ก็ให้ไปแต่เช้าเด้อค่ะพี่น้อง